หากให้นิยามคำว่า แว่นกันแดด วินเทจ สำหรับยุคนี้ให้เข้าใจง่ายๆ ก็คงหมายถึงสไตล์แว่นตาที่ได้รับความนิยมในอดีตและต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน มีสไตล์แว่นตามากมายจากยุคเก่าต่างๆ ที่ไม่เคยหายหน้าหายตาไปจากกระแสแวดวงแว่นกันแดด วินเทจ ที่แม้เวลาจะผ่านไปหลายทศวรรษ แต่ผู้คนก็ยังสวมใส่ให้เห็นในชีวิตประจำวัน ซึ่งวันนี้จะมาเผยเหตุผลว่าทำไม แว่นกันแดด วินเทจ ยังคงเป็นที่นิยม พร้อมรู้จักประวัติศาสตร์ของแว่นตาแต่ละทรงไปพร้อมๆ กัน
ที่มา https://www.vogue.co.th/fashion/article/vintage-glasses
แว่นกันแดด วินเทจ ถูกสวมใส่โดยคนดัง
เหตุผลอีกประการหนึ่งที่ทำให้แว่นตาวินเทจ ไม่ว่าจะเป็นแบบแว่นสายตา หรือแบบแว่นกันแดด ได้รับความนิยมนั้นมาจากการสวมใส่ของคนดังทั้งในชีวิตจริงและบทบาทในภาพยนตร์ จนบางทรงกลายเป็นแว่นตาไอคอนิกของโลกเลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น ‘Ray-Ban Wayfarers’ ได้กลายเป็นที่คลั่งไคล้ทั่วโลกเพราะถูกสวมใส่โดยสไตล์ไอคอนอย่าง เจมส์ ดีน และในปี 1983 ทอม ครูซ เองก็สวมใส่ในภาพยนต์ด้วย จนทำให้ยอดขายแว่นตาถล่มทลาย และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าแว่นตาวินเทจทรงนี้ก็ยังคงเป็นไอเท็มที่ต้องมี จวบจนปี 2022
ประเภทของ แว่นกันแดด วินเทจ
ในบรรดาแว่นกันแดด วินเทจทั้งหมดแต่ละประเภทถือกำเนิดในช่วงยุคที่แตกต่างกัน เมื่อเวลาผ่านไปโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีวิวัฒนาการปรับแต่งให้มีความร่วมสมัยมากขึ้นในขณะที่บางประเภทก็ยังคงโมเดลเดิมเอาไว้ ซึ่งวันนี้จะพาย้อนไปถึงต้นกำเนิด และเรื่องราวที่ทำให้มันได้กลายมาเป็นเครื่องประดับแฟชั่นในยุคต่อๆ มาได้อย่างเหนือกาลเวลา
ที่มา https://www.vogue.co.th/fashion/article/vintage-glasses
1920s – 1930s
แว่นตาเลนส์ทรงกลมถือกำเนิดในช่วงต้นทศวรรษ 1900 มีทั้งแว่นสายตา และแว่นตากันแดด วินเทจ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก ในช่วงแรกเลนส์ทรงกลมทำมาจากเซลลูลอยด์ที่ติดไฟได้แต่ท้ายที่สุดก็ได้เปลี่ยนมาใช้วัสดุอื่นแทน ส่วนกรอบทำจากโลหะเพื่อให้ทนทานสำหรับการใช้งานตลอดวัน ในยุคนี้ผู้คนเริ่มไม่ได้ใส่แว่นเนื่องจากปัญหาสายตาเท่านั้น ทว่ายังมี
การใส่แว่นตากันแดดในฐานะเครื่องประดับแฟชั่นมากขึ้น และเริ่มมีกรอบวัสดุใหม่ๆ ที่ทำจากพลาสติกสีขาว กรอบใส และสีสัน รวมถึงมีเลนส์สีต่างๆ เช่น สีเทา สีน้ำตาล และสีเขียว แว่นทรงกลมเป็นที่นิยมมาเป็นเวลานาน เริ่มตั้งแต่สมัย จอห์น เลนนอน สมาชิกวงดนตรีร็อกแอนด์โรลดังจากอังกฤษในอดีต เดอะ บีเทิลส์ เป็นต้นมา แบรนด์แฟชั่นชั้นนำหลาย
แบรนด์ แว่นทรงกลม สามารถกลับมาฮิตใหม่ได้เสมอ เพราะเชื่อว่า แว่นกลมเข้ากับเสื้อผ้าได้หลายหลากสไตล์ ดูสนุกได้ ดูเป็นการเป็นงานก็ได้ แว่นทรงนี้จะเหมาะกับคนที่แต่งตัวสไตล์มินิมอล ดูติสท์ๆ สีธรรมชาติ หรือขาวดำ เวลาใส่สามารถทำให้แว่นเด่นได้ หรือสามารถใช้เลนส์สีในการสร้างจุดสนใจให้มากขึ้น
ที่มา https://www.vogue.co.th/fashion/article/vintage-glasses
1940s – 1950s
แว่นตาบราวไลน์ ที่มีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ได้รับความนิยมในช่วงทศวรรษที่ 1940s และ 1950s ซึ่งมันได้กลายเป็นแฟชั่นดังเปรี้ยงปร้างเมื่อคนดังเริ่มสวมใส่เป็นจำนวนมาก โดยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แว่นตาบราวไลน์มียอดขายถล่มทลายคิดได้มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายแว่นตาทั้งหมด และอีกสไตล์กรอบแว่นตาที่นิยมในช่วงทศวรรษนี้ก็คือ ‘แว่นทรง
แคตอาย ซึ่งจริงๆ แล้วถือกำเนิดตั้งแต่ช่วงปลายยุค 1920 แต่มาเป็นกระแสดังที่สุดในช่วง 1950 และมีรูปทรงให้เลือกหลากหลายมากขึ้น ซึ่งมันได้กลายเป็นไอเท็มชิ้นโปรดของดาราฮอลลีวู้ดหลายคน หนึ่งในนั้นคือ มาริลีน มอนโร โดยเป็นดารากลุ่มแรกๆ ที่ทำให้แว่นทรงแคตอายเป็นกระแสดังในยุคนั้น
ที่มา https://www.vogue.co.th/fashion/article/vintage-glasses
1950s – 1960s
ในช่วงต้นทศวรรษ 1950 Ray-Ban ได้เปิดตัวแว่นตา Wayfarer และเมื่อคนดังอย่าง เจมส์ ดีน สวมใส่ก็ทำให้เกิดความคลั่งไคล้แว่นทรงนี้กันทั่วโลกจนกลายเป็นหนึ่งในเครื่องประดับแฟชั่นที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาต่อเนื่องมาจนถึงปี 1960 นอกจากนี้แว่นตาขอบสีดำ เป็นที่นิยมในวงการศิลปะและวรรณกรรมด้วยเช่นกันที่สะท้อนถึงสไตล์ฟิล์มนัวร์ซึ่งเป็น
กระแสวัฒนธรรมที่มีอิทธิพลอย่างมากในช่วงของยุคนั้น ต่อมาแว่นทรง Wayfarer, Blowline และอื่นๆ ก็ยังได้รับความนิยมอย่างสูง แว่นตารุ่นนี้เปรียบเสมือนกางเกงยีนส์รุ่น 501 คือมันเป็นแว่นที่เป็นตัวแทนของความทันสมัย มีความฮอตฮิตมายาวนานเพราะทรงเส้นความโค้งของกรอบ เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1970 หลังจากที่รุ่นนี้ฮิตได้ 20 ปีก็หายไป แต่แบรนด์ยักษ์ใหญ่
อย่าง Ray-Ban นำกลับมาทำใหม่ ใครดาราใส่ในหนังหลายเรื่อง ทำให้แว่นทรงนี้กลับมาฮิตอีก โดยเฉพาะกับคนทรงหน้ากลม ความเรียบง่ายแต่มีความเป็นเอกลักษณ์ของกรอบนี้ เพิ่มเติมกับการที่กรอบนี้เข้าได้กับเสื้อผ้าและลุคสไตล์ไหนก็ได้ ทำให้กรอบสไตล์นี้มีความนิยมยาวนาน
1 . Aviator Frames (แว่นทรงนักบิน)
เดิมทีแว่นกันแดดมีการใช้อย่างแพร่หลาย ไม่ใช่เพื่อแฟชั่นแต่เพื่อช่วยในการป้องกันสายตาจากแสงแดดที่แยงเข้าตา และแว่นกันแดดนั้น ได้เริ่มในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเพื่อช่วยป้องกันสายตาของนักบิน ที่ต้องขับขี่เครื่องบินรบ เป็นทรงเอกลักษณ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดมาโดยตลอดเพราะนอกจากดีไซน์ที่เข้ากับทุกรูปหน้าและทุกช่วงวัยของผู้สวมใส่แล้ว ยังมีให้เลือกกันหลายขนาด จึงทำให้ผู้สวมใส่สามารถเลือกขนาดให้เข้ากับใบหน้าและสไตล์การสวมใส่ได้มากขึ้น ดารานักร้องดัง ๆ อย่าง ไมเคิล แจ็คสันและ โรเบิร์ต เดอ นีโร ก็ใส่ทรงนี้ด้วย
2. Square Frames (แว่นทรงเหลี่ยม)
แว่นทรงเหลี่ยม ส่วนมากเป็นนักดนตรีระดับโลกที่ใส่แว่นกันแดดเป็นอีกอวัยวะนึงเลยก็ว่าได้คือ เอลตัน จอห์น นักดนตรีชาวอังกฤษที่มีแว่นมากกว่า 20,000 อัน ถึงแม้เขาจะมีแว่นมากมายหลายแบบหลายทรง แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่า แว่นทรงเหลี่ยมนั้นเข้ากับรูปหน้าของเขาที่สุด เพราะสมดุลของแว่นทรงเหลี่ยมรับเข้ากับรูปหน้าของเขาที่สุด เช่นเดียวกันกับดาราดังอย่าง แจ็ค นิโคลสัน แบรนด์ดังต่าง ๆ เช่น ทอม ฟอร์ด จึงออกคอลเล็คชั่นใหม่เป็นกรอบทรงเหลี่ยมเป็นหลัก แว่นทรงเหลี่ยมจะเหมาะกับคนที่มีหน้าทรงกลมมน เพราะจะตัดกับทรงรูปหน้าได้ดี ยิ่งถ้าเป็นกรอบเหลี่ยมลายกระ ใส่กับเสื้อประเภทโปโล กางเกงสีอ่อนก็จะได้ลุคซัมเมอร์ดูสบาย ๆ มากขึ้น
3 . Clubmasters Frames แบรนด์ Ray-Ban
ตัวแว่นกันแดดทรงนี้เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างดีไซน์คลาสสิกและทันสมัย ทำให้สามารถสวมใส่คู่กับเสื้อผ้าได้หลายลุคหลายสไตล์ตั้งแต่ลุคสบาย ๆ ไปจนถึงการสวมใส่คู่กับชุดสูท ส่วนรูปหน้าที่เหมาะสมกับแว่นกันแดดทรงนี้ ที่มีทรงค่อนข้างเหลี่ยมนั้นก็ได้แก่ รูปหน้าที่ค่อนข้างกลม รูปหน้ายาว และรูปหน้าทรงหัวใจ สามารถใส่เข้าได้กับชุดสูท เสื้อเชิ๊ตต่าง ๆ
4 . Keyhole Nose Frames (แว่นทรงจมูกเกือกม้า)
แว่นทรงนี้จะมีจมูกที่เป็นเอกลักษณ์ ดาราดังอย่างสตีฟ แม็คควีนใส่แว่นรุ่นนี้ของแบรนด์ ในปี 1968 ทำให้แว่นทรงนี้ฮิตขึ้นมาทันที จัดเป็นแว่นที่มีดีเทลที่เป็นเอกลักษณ์แสดงถึงความเป็นตัวของตัวเอง แต่ก็ไม่เด่นเกินไป แว่นทรงนี้เหมาะสำหรับคนที่มีหน้าทรงออกเหลี่ยมหน่อย มีความเป็นตัวของตัวเองสูง สามารถใช้ได้กับคนแต่งตัวสไตล์วินเทจ สไตล์คลาสสิค แต่งตัวไปงานหรือไปเที่ยวก็ได้